News & Activities


27 กรกฏาคม 2560

SCG เปิดตัว “Open Innovation Center” ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ต่อยอดธุรกิจจากทั่วโลกด้วยความร่วมมือ R&D หวังผุดนวัตกรรมที่เร็วและดีกว่า

 

SCG เปิดตัว “Open Innovation Center” ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ต่อยอดธุรกิจจากทั่วโลกด้วยความร่วมมือ R&D หวังผุดนวัตกรรมที่เร็วและดีกว่า

 

         เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 60 SCG ได้เปิดตัว “Open Innovation Center” ศูนย์กลางการเปิดรับความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกับภาครัฐ เอกชนตลอดจนสถาบันการศึกษาจากทั่วโลก เพื่อหวังให้เกิดเครือข่ายสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เร็วและดียิ่งกว่า เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสามารถของ SCG ในการผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคอีกทั้ง ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการแข่งขันอุตสาหกรรมไทยสู่อาเซียน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG และ นายชลณัฐ ญาณารณพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG และผู้บริหาร SCG

         ดร.สุวิทย์ฯ กล่าวว่า “Open Innovation Center” ของ SCG แห่งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคเอกชนที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีศักยภาพที่จะปรับเปลี่ยนจากประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศรายได้สูง จากการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เปลี่ยนจากยุคของสังคมที่เน้นองค์ความรู้สู่ยุคของสังคมที่เน้นการยกระดับคุณภาพชีวิต
         ดร.อรรชกาฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับการเปิดตัว “Open Innovation Center” ของ SCG ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในการต่อยอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันอย่างทัดเทียมในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

         ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผอ.สวทช. พูดไว้อย่างน่าสนใจในช่วงเสวนา “นวัตกรรมเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ว่า สวทช. สร้าง อวท. ขึ้นมา ไม่ได้สร้างเพื่อเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยภาครัฐ แต่ต้องการให้เป็นที่สำหรับเอกชนเข้ามาทำวิจัย โดยภาครัฐสนับสนุนนักวิจัย เครื่องมือต่างๆ ที่มีราคาสูง กลไกและผู้เชี่ยวชาญ ปลายทางที่จะส่งผ่านนวัตกรรมให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจกับประเทศ คือ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรรม การที่ SCG ตัดสินใจเลือก อวท. เป็นที่ตั้งของ Open Innovation Center ผมหวังว่าจะได้เห็นความร่วมมือกันของบริษัทที่อยู่ใน อวท. ที่มีตั้งแต่ SME ไปจนถึงขนาดใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ หลายๆ บริษัทที่อยู่ในนี้อาจจะมีนวัตกรรมที่ SCG สนใจและอาจจะมีโอกาสได้ร่วมธุรกิจด้วยกัน ผมเชื่อว่าเมื่อ Open Innovation Center ของ SCG เปิดตัวอย่างเป็นทางการและพร้อมต้อนรับคนทุกคนจากทั่วทุกมุมโลก น่าจะทำให้ อวท. คึกคักและเต็มไปด้วยกิจกรรมวิจัยพัฒนา

         นายชลณัฐฯ ในฐานะประธานคณะทำงาน SCG Innovation Committee กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความรู้ความสามารถของบุคลากรชั้นนำด้านการวิจัยและพัฒนาใน SCG ที่มีกว่า 1,800 คน และการให้ความสำคัญกับงาน R&D โดยวางแผนทุ่มงบประมาณปีละกว่า 6,000 ล้านบาท ประกอบกับประสบการณ์และความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าจากการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ทั้งในตลาดประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ทำให้มั่นใจได้ว่า Open Innovation Center ของ SCG มีศักยภาพที่จะเสริมความแข็งแกร่งของการพัฒนานวัตกรรมให้กับทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจของ SCG รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ที่สนใจ เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

         “R&D ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ SCG โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา SCG มียอดขายจากกลุ่ม HVA ถึง 1.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 38% ของรายได้จากการขายรวม วันนี้เรายังคงเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยนำความเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมมาพัฒนาเป็น Open Innovation Center ด้วยความมุ่งหวังจะใช้เป็นศูนย์กลางที่เปิดกว้างให้เกิดความร่วมมือด้าน R&D ระหว่าง SCG กับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ของทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อดึงศักยภาพของแต่ละภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนกัน ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับสินค้าและบริการที่สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภค” 

         Open Innovation Center ของ SCG ยังเปิดพื้นที่สนับสนุนการทำ R&D อย่างเป็นระบบให้แก่เครือข่ายสตาร์ทอัพจากทั่วโลกที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ในการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Sci-Tech) เพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงกับ SCG โดยเฉพาะในกลุ่ม Materials, Clean Tech และ Sensor & IoT ก่อนนำไปสู่การต่อยอดธุรกิจร่วมกันในอนาคตอีกด้วย นายชลณัฐ กล่าวทิ้งท้าย
 

ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม Open Innovation Center โดย SCG ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น. 
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างความร่วมมือกับ SCG ได้ที่
Email:
โทร. 02-586-6324 หรือ 02-586-1065

 

SCG Open Innovation Center
SCG Open Innovation Center
 
SCG Open Innovation Center
SCG Open Innovation Center
 
SCG Open Innovation Center
SCG Open Innovation Center