News & Activities
1 ธันวาคม 2566
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เข้าร่วมบรรยายในงาน The 26th Asian Science Park Association Annual Conference ประเทศตุรกี
เมื่อวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะตัวแทนของอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยและเป็นวิทยากรบรรยายงานประชุมประจำปี The 26th Asian Science Park Association Annual Conference ณ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งจัดขึ้นโดย Asian Science Park Association (ASPA) ร่วมกับ Teknopark Istanbul ภายใต้ธีม “Connecting Asian Science and Technology Parks Through the Silk Road Model” ซึ่งผู้จัดงานมีความประสงค์จะกระตุ้นความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดแนวเส้นทางสายไหม (Silk Road) ในอดีต งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนเครือข่ายสมาชิกอุทยานวิทยาศาสตร์ องค์กรรัฐ และเอกชน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี วัฒนธรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย
ดร.เจนกฤษณ์ฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีอุทยานวิทยาศาสตร์ 8 แห่ง ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย Food Innopolis, เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation, EECi), เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย(Software Park Thailand) และอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค (Regional Science Park) 4 แห่ง รวมถึงมีการจัดตั้งสมาคมหน่วยบ่มเพาะธุรกิจ และอุทยานวิทยาศาสตร์ไทย (Thai BISPA) โดยทั้งหมดต่างทำงานอย่างเป็นอิสระแต่สามารถบูรณาการร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย ASPA มีแนวทางในการขับเคลื่อนอุทยานวิทยาศาสตร์ไปสู่ความยั่งยืน “Driven for sustainability” ผ่านการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุทยานวิทยาศาสตร์ ด้วยการใช้ประโยชน์ของ Twin transitions โดยการนำ Digital transition และ Green Transition เพื่อนำไปสู่ Sustainability Transition และใช้ประโยชน์กับข้อมูลที่ได้มาได้อย่างสูงสุด และให้คำนึงถึงความท้าทายที่สำคัญ 3 ประการคือ
- Technological Innovation: เปิดรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นและเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและด้านความยั่งยืน
- Talent Development: การเสริมทักษะเพื่อปิดช่องว่าง (Skills gap) ให้กับกำลังคน ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ
- Inclusive Innovation: คือการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การพัฒนาไปพร้อมๆกัน เป็นเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลง
อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STP) ในรุ่นต่อๆไปต้องเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทาง Twin transition และขับเคลื่อนนวัตรรมทางสังคม สร้างโอกาสในความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อรับกับความท้าทายในอนาคต
ดร.เจนกฤษณ์ฯ ได้กล่าวว่าทิ้งท้ายว่า การร่วมงานกันด้วยการบูรณาการระหว่างอุทยานวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งสำคัญในโลกปัจจุบัน คำว่า “Open Innovation” เป็นบรรทัดฐานของทุกแห่ง ด้วยทฤษฏีของปลาเร็วกินปลาช้า “Fast fish is eating slow fish” การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก (Global supply-chain) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องด้วยภูมิศาสตร์การเมือง (Geopolitics) ในส่วนของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green movement) ยังคงอยู่ในเทรนด์ที่สำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ การรวมตัวกันระหว่างอุทยานวิทยาศาสตร์สามารถผนึกกำลังกันเพื่อจัดการกับปัญหาระดับมหภาคสำหรับประชาชนในปัจจุบันและรุ่นต่อไป เช่น ปัญหาการระบาดใหญ่ในอนาคต, ปัญหาการเข้าถึง Twin transition (Digital transition + Green transition), ปัญหาโลกเดือด (Global boiling) รวมถึงการบรรลุเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ