อุตสาหกรรมสิ่งทอมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ทั้งยังสำคัญต่อวิถีชุมชน โดยสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท โดยก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ประกอบการ การสร้างงานในชุมชน รวมถึงการดำรงรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ผ้าพื้นเมือง เช่น ฝ้าย หรือไหม มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ ทนทาน แข็งแรงเหมาะกับการประยุกต์ใช้ที่หลากหลาย
          นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากนโยบายส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าสิ่งทอด้วยนาโนเทคโนโลยีเพื่อรองรับการแข่งขันเสรี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาแนวทางในการนำนาโนเทคโนโลยีมาเพิ่มมูลค่าสิ่งทอ โดยเฉพาะผ้าฝ้ายและผ้าทอพื้นเมือง เกิดกระบวนการตกแต่งผ้าให้มีคุณสมบัติที่แตกต่าง อาทิ ลดการยับและเพิ่มความนุ่มนวล ตลอดจนการคืนตัวของผ้าทำให้ดูแลรักษาง่าย นอกจากนั้นยังเพิ่มคุณสมบัติสะท้อนน้ำและต้านเชื้อแบคทีเรียทำให้ไม่เหม็นอับและลดความจำเป็นในการซัก รวมไปถึงการเพิ่มกลิ่นหอมและคุณสมบัติหน่วงไฟจะทำให้ผ้ามีคุณสมบัติ เหมาะสมกับงานด้านเฟอร์นิเจอร์เช่นโซฟาและผ้าม่านมากขึ้นในโอกาสใกล้เทศกาลสงกรานต์
          กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้จัดทำผ้าฝ้ายและผ้าทอพื้นเมืองคุณสมบัติพิเศษด้านนาโนอันได้แก่การสะท้อนน้ำและต้านเชื้อแบคทีเรียให้คณะรัฐมนตรีใช้สวมใส่ด้วย
          นายวรวัจน์กล่าวด้วยว่า เพื่อช่วยให้ภาคเอกชนสิ่งทอไทยนำนาโนเทคโนโลยีไปสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตนได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เร่งจัดตั้งศูนย์ให้บริการนาโนสิ่งทอ ซึ่งจะให้บริการทั้งการเพิ่มคุณสมบัติของผ้าด้วยการเคลือบด้วยสารคุณสมบัติพิเศษต่างๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและการทำตลาด
          ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะให้บริการ 2 ที่ คือส่วนกลางจะให้บริการที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. และภาคเหนือตอนบนที่จังหวัดแพร่ ก่อนจะขยายไปทั่วทุกภูมิภาค ต่อไป