News & Activities
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีกับบริษัทเอกชนและนักวิจัยนาโนฯ คว้า 11 รางวัลจากงานการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ “46th International Exhibition of Invention Geneva” สวิตเซอร์แลนด์
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ขอแสดงความยินดีกับบริษัท เวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และ บริษัท ที-เน็ต จำกัด รวมถึงศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่สามารถคว้ารางวัลด้านงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกในงาน 46th International Exhibition of Invention Geneva ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2561 ถือเป็นงานประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติที่สำคัญและมีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดในโลก ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวา และองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ในปีนี้มีผลงานเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงนิทรรศการมากกว่า 1,000 ผลงาน จาก 40 ประเทศทั่วโลก มีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 50,000 คน
น.สพ.สนัด วงศ์ทวีทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารคียแอคเคานต์ กล่าวว่า “มันไม่ง่ายเลยกับการคัดเลือกผลงานเด่นจากบริษัทเอกชนที่อยู่ในนิคมวิจัยแห่งนี้ที่มีอยู่กว่า 90 บริษัท เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยและงานนี้ถือเป็นงานระดับโลก แต่ละประเทศจะคัดสุดยอดของสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมชั้นเลิศกันมาทั้งนั้น แต่ในท้ายที่สุดเราก็ได้ 2 บริษัท คือ บริษัท เวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และ บริษัท ที-เน็ต จำกัด เข้าร่วมประกวดในครั้งนี้แล้วก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังครับ เพราะสามารถคว้ารางวัลมาได้เกินความคาดหมายด้วยซ้ำ
บริษัท เวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และในเครือเวทโปรดักส์ คว้า 5 รางวัล ได้แก่
1. เหรียญทอง ผลงาน Restwheel วีลแชร์อัตโนมัติเพื่อน้องหมาพิการ
2. เหรียญเงิน ผลงานผลิตภัณฑ์ Pericol ผลิตภัณฑ์ทดแทนยาปฏิชีวนะที่แก้ปัญหาท้องเสียในสุกร
3. เหรียญเงิน ผลงานผลิตภัณฑ์ Tilmicosin nanoparticle ผลิตภัณฑ์ยาทิลมิโคซินที่พัฒนาคุณภาพเพื่อประโยชน์ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
4. เหรียญทองแดง ผลงานผลิตภัณฑ์ Begesta ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ท้องผูกในแม่สุกรอุ้มท้อง
5. เหรียญทองแดง ผลงานผลิตภัณฑ์ Mineral nanoparticle ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุที่พัฒนาเพื่อประโยชน์ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
บริษัท ที-เน็ต จำกัด คว้า 2 รางวัล ได้แก่ เหรียญทองแดงและประกาศนียบัตรโบว์สีน้ำเงิน จาก สมาคมนักประดิษฐ์แห่งชาติยุโรป (EUROPE FRANCE INVENTEURS) จากผลงานเครื่องป้องกันโดรน (Drone Jammer) เป็นการส่งสัญญาณรบกวนโดรนที่ไม่ได้รับอนุญาตในรัศมีที่ห่างออกไปได้ถึง 700-1,000 เมตร เมื่อผู้ใช้สั่งการ Drone Jammer ไป จะทำให้ผู้บังคับโดรนนั้นไม่สามารถควบคุมโดรนได้ ทำให้โดรนตัวนั้นต้องบินกลับไปยังจุดที่ปล่อยออกมา ถือเป็นผลงานนวัตกรรมด้าน Security ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้เข้าชมงานมาก
นักวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยี สวทช. ก็โดดเด่นไม่แพ้กันคว้ามาได้ถึง 4 รางวัล ได้แก่
ดร.ณัฏฐพร พิมพะ
1. เหรียญทอง จากผลงาน "การแปรรูปโฟมพอลิสไตรีนของเสียเป็นวัสดุดูดซับน้ำมันและตัวทำละลายอินทรีย์" (Conversion of polystyrene foam waste to a high performance oil and organic solvent adsorbent) ทีมหน่วยวิจัยเกษตรนาโนและสิ่งแวดล้อม
2. เหรียญเงิน จากผลงาน "อนุภาคนาโนทิลมิโคซินสำหรับการป้องกันและรักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในสัตว์เศรษฐกิจ" (Dry Powder Form of Tilmicosin Nanoparticle used for Preventing and treating respiratory diseases in livestock) ทีมวิจัยห้องปฏิบัติการระบบนำส่ง ซึ่งผลงานดังกล่าวเป็นงานวิจัยที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างศูนย์นาโนฯ กับ บริษัท เวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด
3. เหรียญทองแดง จากผลงาน “แผ่นเส้นใยนาโนเมมเบรนสมบัติพิเศษและแผ่นกรองนาโนที่มีความแข็งแรง ทนทานขนาดเล็กและบางพิเศษจากเส้นใยนาโนสำหรับการกำจัดวัณโรค” (n-Breeze : Multifunctional & Scalable nanofilter with Mechanically-Robust and Ultrathin Nanofibrous Membranes for Tuberculosis Elimination) ทีมหน่วยวิจัยวัสดุนาโนเฉพาะทางและนาโนเทคโนโลยีขั้นสูง
4. เหรียญเกียรติยศ (Special Award) จากผลงาน "ปุ๋ยควบคุมการปลดปล่อยเคลือบด้วยฟิล์มพอลิเมอร์นาโนคอมพลสิทที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ" (Controlled release fertilizer by coated with biodegradable nanocomposite polymer film) ทีมหน่วยมาตรวิทยานาโนวิเคราะห์และวิศวกรรม
น.สพ.สนัดฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในนิคมวิจัยแห่งนี้ เรามีพื้นที่พร้อมสำหรับเอกชนที่ต้องการเข้ามาทำวิจัยและพัฒนา รวมถึงหาโอกาส ความร่วมมือทั้งกับ 4 ศูนย์วิจัยแห่งชาติ หรือแม้แต่บริษัทเอกชนที่อยู่ในนี้ เพราะภารกิจหลักของเรา คือ การผลักดันผลงานวิจัย นวัตกรรมต่างๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนไปสู่เวทีโลกให้ได้ ผ่านการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย เพราะฉะนั้นการเข้ามาอยู่ในนิคมวิจัยแห่งนี้ไม่ใช่แค่การทำงานวิจัย มีผลงานออกมาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับการให้โอกาสกับงานวิจัยภาครัฐและเอกชนได้ยืนอยู่ในเวทีระดับนานาชาติอีกด้วย ซึ่งงานนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ได้ดีว่า นักวิจัย สวทช. และบริษัทวิจัยใน (อวท.) มีศักยภาพมากแค่ไหน..?
สำหรับงานในครั้งนี้ ต้องขอบคุณ คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่เป็นแม่งาน ซึ่งมีผลงานจากมหาวิทยาลัยและหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมด้วย และสามารถคว้ารางวัลต่างๆ ได้เช่นกัน ผมรู้สึกว่างานวิจัยปีนี้ดูคึกคัก ภาคเอกชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่ต่างชาติก็เช่นกัน สิ่งสำคัญของการมาประกวดงานนวัตกรรมระดับโลก ผมมองว่าไม่ใช่แค่มาเพื่อล่ารางวัล แต่มันคือการมาเพื่อโอกาสทางธุรกิจ การเปิดตลาดในระดับโลก